(อะไหล่เครน รถเครนใหม่ ตัวแทนจำหน่ายรถเครน เครนติดบรรทุก เเละเฮี๊ยบ)
รถเครน ถือเป็นเครื่องจักรหรืออุปกรณ์สำคัญของผู้ประกอบการด้านงานก่อสร้าง งานด้านสถาปัตยกรรม งานวิศวกรรม งานโยธาและการขนส่ง รวมถึงการใช้เครนในอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ เครนที่นำมาใช้งานมีหลายประเภทและหลายขนาด เช่น เครนติดบรรทุก หรือเฮี๊ยบ ซึ่งเป็นเครนประเภทเคลื่อนที่ได้ และเครนแบบไม่เคลื่อนที่ อย่างเช่น เครนติดผนังหรือเครนแบบบูมสวิงที่ถูกติดตั้งคันบูมไว้กับโครงสร้างหลักของอาคาร รถเครนใหม่หรือเครนเก่าที่ยังอยู่ในสภาพดี จึงต้องมีการบำรุงรักษาให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ทาง
วิธีการดูแลรักษารถเครน
เครนหรือปั้นจั่น เป็นเครื่องจักรกลที่ต้องมีการใช้งานอยู่เกือบตลอดเวลา การบำรุงดูแลรักษาอย่างถูกวิธี นอกจากทำให้อุปกรณ์หรือเครื่องจักรกลอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอแล้ว การรักษาดูแลอย่างสม่ำเสมอยังถือเป็นการตรวจเช็คสภาพเครน หากพบปัญหาก็สามารถทำการซ่อมบำรุงหรือปรับเปลี่ยนอะไหล่เครนใหม่ได้ทันทีโดยไม่เสียเวลาทำงาน นอกจากนั้นการบำรุงรักษาเครนให้อยู่ในสภาพดี ยังเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดจากความผิดพลาดในการทำงานได้เป็นอย่างดี สำหรับการดูแลรักษารถเครนทำได้หลายวิธี ดังนี้
- ตรวจสอบดูแลรักษาสภาพสายสลิงของรถเครนให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ลักษณะของสลิงที่พร้อมใช้งานและอยู่ในสภาพดี ต้องไม่บิดงอ สภาพลวดสลิงไม่ฟองฟู ไม่แตกเป็นสนิมหรือเป็นขุย สามารถตรวจสอบได้โดยใช้ผ้ารูดไปตามเส้นสลิงแล้วสังเกตลวดสลิงว่ามีสภาพหรือลักษณะตามที่กล่าวมาหรือไม่ หากพบว่ามีการชำรุดเสียหายต้องจัดหาอะไหล่เครนมาปรับเปลี่ยน เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการใช้งาน
- ดูแลตรวจสอบรักษาสภาพแกนม้วนสายสลิงที่อยู่ภายในรถเครน แกนม้วนสายสลิงต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่มีรอยแตกร้าว ร่องสลิงไม่บิ่นไม่มีคมหรือมีสิ่งแปลกปลอมติดค้างอยู่ภายใน ลวดสลิงต้องเรียงเป็นระเบียบ และพร้อมสำหรับใช้งาน
- ดูแลตรวจสอบดูเเลรักษาสภาพตะขอที่เกี่ยวระหว่างสายสลิงว่ามีรอยสึกหรือรอยแตกร้าวหรือไม่ ตรวจสอบการทำงานของชุดตะขอว่าสามารถหมุนรอบได้สะดวก มีความคล่องตัวหรือไม่ อาจใช้สารหล่อลื่นใส่ลงในตะขอทุกครั้งเมื่อมีการใช้งาน เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในระหว่างใช้งานสายสลิง
- ตรวจสอบสภาพมอเตอร์ของรถเครน ทั้งการยกขึ้น-ลง การบิดไปทางซ้าย-ขวา เเละการเดินหน้า-ถอยหลัง โดยจะต้องสามารถใช้งานเป็นปกติ
- ตรวจสอบชุดมอเตอร์ขึ้น-ลง ยกรอบช้าและเร็ว การบิดไปทางซ้าย-ทางขวา เเละการเดินหน้า-ถอยหลัง การตรวจสอบสภาพมอเตอร์ต้องให้ความสำคัญในการตรวจสอบทั้งรถเครนใหม่ และเครนเก่าที่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอย่างสม่ำเสมอ
- ตรวจสอบและดูแลรักษาสภาพสวิตซ์ไฟในทุกระบบของรถเครน โดยการกดสวิตซ์ขึ้นและลงแช่ไว้จนกว่าระบบจะตัดการทำงาน
- ตรวจสอบและดูแลการทำงานของระบบเบรกในทุกๆ ฟังก์ชั่นของรถเครน ตรวจเช็คสภาพเบรกว่าสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ และควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกและผ้าเบรกทุกครั้ง ภายในระยะเวลา 5 ปีของการใช้งาน ซึ่งตัวแทนจำหน่ายรถเครนมักจะให้คำแนะนำอยู่แล้วเมื่อซื้อรถเครนใหม่
- ตรวจสอบและดูแลชุดลูกยางกันชนภายในรถเครนให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีรอยแตก หัก หรือบิ่นปรากฏให้เห็น หากมีการชำรุดควรเปลี่ยนอะไหล่เครนใหม่ทันที เพื่อความปลอดภัยในขณะทำงาน
- ตรวจสอบและดูแลชุดสายไฟในทุกระบบการทำงานให้อยู่ในสภาพดีและพร้อมใช้งาน ไม่มีรอยถลอกหรือฉีกขาด หากสายไฟมีรอยชำรุดควรซ่อมหรือเปลี่ยนสายไฟให้เรียบร้อย
- ตรวจสอบและดูแลสัญญาณเสียง สัญญาณแสง และไฟหมุนภายในรถเครนว่าอยู่ในสภาพปกติหรือไม่
- ตรวจสอบและดูแลอุปกรณ์เสริมทุกชนิดในรถเครน ทั้ง Shackle ลวดสลิง และอุปกรณ์อื่นๆ ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์และพร้อมใช้งานอยู่เสมอ หากพบว่าอุปกรณ์ใดชำรุดเสียหายทำการเปลี่ยนอะไหล่เครนทันที เพื่อความปลอดภัยในการทำงาน
- ตรวจสอบสภาพชุดล้อขับเคลื่อน ทดสอบการวิ่งของรถ เเละฟังเสียงลูกปืนล้อว่ามีเสียงดังผิดปกติหรือไม่
- ตรวจสอบและดูแลชุดลูกยางกันชนว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์และพร้อมใช้งานหรือไม่ ควรตรวจสอบทั้งรถเครนใหม่และเครนที่ใช้งานมานานแต่ยังอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
- มีการบันทึกข้อมูลการบำรุงรักษาและการเปลี่ยนอะไหล่เครน รวมทั้งบันทึกข้อมูลการใช้งานเพื่อวิเคราะห์กรณีเกิดปัญหาหรือมีข้อผิดพลาดระหว่างการทำงาน
- มีการเก็บรักษาดูแลอุปกรณ์และอะไหล่เครนอย่างเป็นระบบ โดยผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจและได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ในการดูแลโดยเฉพาะ
- มีการตรวจสอบและดูแลรถเครนหรือปั้นจั่น โดยเลือกใช้บริการตรวจสอบสภาพของบริษัทเซอร์วิสที่มีความเชี่ยวชาญในการซ่อมบำรุงโดยเฉพาะ หากพบปัญหาอุปกรณ์ชำรุดเสียหายก็สามารถจัดหาอะไหล่เครนปรับเปลี่ยนให้ได้
ส่วนวิธีการดูแลรักษารถโฟล์คลิฟท์
ปัจจุบันรถโฟล์คลิฟท์หรือรถยกถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม และคลังสินค้า ลักษณะโดยทั่วไปของรถโฟล์คลิฟท์มีแท่งเหล็กยื่นออกมาจากโครงสร้างหลักของตัวรถเรียกว่า งา ซึ่งใช้สำหรับวางและยกสิ่งของ เพื่อทำการขนย้ายเคลื่อนย้าย ซึ่งผู้ใช้ควรมีความชำนาญเข้าใจในการควบคุมและบังคับเพราะอาจเป็นอันตรายได้ถ้าไม่ศึกษาวิธีการใช้หรือไม่มีความรู้เพียงพอในการปฏิบัติ สำหรับการดูแลรักษารถโฟล์คลิฟท์เบื้องต้นมีวิธี ดังนี้
- ระบบช่วงล่าง เป็นระบบที่มีความสำคัญอย่างมากจะประกอบด้วย ระบบขับเคลื่อน ระบบบังคับเลี้ยว ยาง ชิ้นส่วนต่างๆ ที่หลายคนอาจจะมองข้ามเนื่องจากมีความทนทาน จึงขาดการดูแล บำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ
- ระบบส่งกำลัง เป็นระบบที่มักเกิดความผิดปกติที่มักสังเกตเห็นอาการอย่างชัดเจน เช่น มีอาการสั่นเมื่ออกตัวหรือขณะวิ่งด้วยความเร็วปกติ เข้าเกียร์ยาก รถไม่มีกำลังส่ง เป็นต้น อาการเหล่านี้ควรรีบแก้ไขทันที เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
การดูแลรักษารถเครน รถโฟล์คลิฟท์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน นอกจากช่วยลดอุบัติเหตุหรือข้อผิดพลาดในการทำงานได้ส่วนหนึ่งแล้ว ยังไม่ทำให้เสียเวลาทำงานหรือทำให้งานต้องหยุดชะงักเมื่อต้องเสียเวลาซ่อมบำรุงเป็นเวลานาน การดูแลรักษาและตรวจสอบสภาพทั้งรถใหม่และรถเก่าที่ยังอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอย่างสม่ำเสมอ อย่างการตรวจเช็คตามระยะชั่วโมงการทำงานหรือการทำ Preventive Maintenance (PM) เป็นวิธีหนึ่งในการยืดอายุการใช้งานเครื่องจักรอย่างรถเครนหรือปั้นจั่น หรือรถโฟล์คลิฟท์พร้อมอุปกรณ์ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีคุณภาพ
และก่อนการดูแลรักษารถเครน รถโฟล์คลิฟท์นั้น คุณควรปฏิบัติอย่างไร? อ่านบทความ : ทำไมเราต้องล็อคเอ้าท์เเท็กเอ้าท์ (LOCKOUT-TAGOUT)
หากคุณกำลังมองหาหรือต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับสเปรย์อุตสาหกรรม รถโฟล์คลิฟท์ รถลากพาเลทไฟฟ้า Electric Pallet Tuck ทาง บริษัท นารา เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด มีจำหน่ายพร้อมนำส่งและยินดีให้คำปรึกษา นอกจากนี้เราเป็นผู้จำหน่าย ให้เช่า บริการซ่อมโฟล์คลิฟท์ รถยก Forklift Truck ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ พร้อมรับประกันหลังการซ่อม และจัดหาอะไหล่รถโฟล์คลิฟท์ นำเข้าอะไหล่จากต่างประเทศโดยตรง จำหน่ายในราคาที่เหมาะสม
สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ทาง
บริการของ บริษัท นารา เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด
⇒ รายการอะไหล่แฮนพาเลท (Hand Pallet Truck Parts)
⇒ ปลั๊กแบตเตอรี่ & อุปกรณ์ไฟฟ้า (Battery Plugs Connector & Electrical)
⇒ รายการอะไหล่ (Parts)
⇒ รายการล้อ (Caster Wheels)
⇒ สเปรย์ & จารบี (Spray & Grease)
Post on 2019-09-24